วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

บิ๊กสินหนุนเอสวัน ชิงนายกฯ ดีเดย์เลือกตั้งครบวาระ 20 กรกฎาคม 2565 ชาวสอยคิวจับตามอง


วันที่ 20 ก.ค. 2565 นี้ จะเป็นวันประชุมใหญ่สามัญประจำปี ของสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ซึ่งในการประชุมครั้งนี้จะมีวาระสำคัญ คือการเลือกตั้ง นายกสมาคมคนใหม่แทน “เฮียฮง” นายสุนทร จารุมนต์ ที่หมดวาระไป โดย “เฮียฮง” นายกสมาคมคนเดิมแสดงเจตนาว่าจะลงสมัครต่ออีกวาระ ขณะที่ “เอสวัน” นายไชยพงศ์ กรวสุรมย์ อดีตผู้จัดการทีมชาติกีฬาบิลเลียดของไทย ก็มีความสนใจที่จะลงสมัครแข่งขันเพื่อให้สโมสรสมาชิกได้ออกเสียงเลือกในฐานะนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดด้วยนั้น

​ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดใจจาก “เอสวัน” นายไชยพงศ์ ว่า ตนมีความตั้งใจอย่างมากที่จะเสนอตัวลงแข่งขันเพื่อให้สโมสรสมาชิกเลือกเป็นนายกสมาคมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ โดยการตัดสินใจของตนเองนั้นได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่ายที่ล้วนเกี่ยวข้องกับวงการสอยคิวประเทศไทยจำนวนหนึ่ง รวมทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตนเองเคารพนับถือด้วย ทั้งนี้ตนเองบอกตรง ๆ คืออยากที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น และวงการกีฬานี้จะต้องดีกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาเท่าที่ทราบและพบนั้น หลายอย่างของการบริหารงานของคณะกรรมการบริหารชุดนี้ มีจุดบอกพร่องและผิดพลาดมากพอสมควร รวมทั้งในเรื่องของความโปร่งใสที่ควรจะมีด้วย แต่เรื่องนั้นก็ว่ากันทีหลังเพราะตอนนี้เท่าที่ทราบมีการตรวจสอบอยู่แล้ว

​“เอสวัน” ย้ำอีกว่า ตนเองจะเสนอตัวเพื่อที่จะให้สโมสรสมาชิกหรือกรรมการที่มีสิทธิในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งได้พิจารณาความตั้งใจจริงของตนเองที่ผ่านมา พร้อมทั้งการเปรียบเทียบการดำเนินงานของชุดเก่า หากตนเองถูกเลือกเป็นนายกสมาคมก็จะตั้งใจทำหน้าที่และเคลียร์ทุกอย่างที่เป็นข้อปัญหา และข้อสงสัย ที่เกิดขึ้นในวงการทั้งหมด ส่วนหากไม่ได้รับเลือกตนเองก็จะยังทำหน้าที่ส่วนอื่น ๆ ที่จะเป็นการสนับสนุนวงการกีฬาสอยคิวไทยเหมือนเดิม เหมือนที่ได้ทำมาตลอด
​“ผมได้หารือกับท่านสินธุ พูนศิริวงศ์ อดีตนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดคนเก่าที่เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือของคนในวงการนี้มาตลอด ท่านก็เป็นกำลังใจให้ผมลงแข่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ และท่านเห็นตรงกับผมทุกอย่าง” ผู้ที่จะเป็นคู่แข่งของ “เฮียฮง” กล่าว

​ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสัมภาษณ์ “บิ๊กสิน” สินธุ พูนศิริวงศ์ อดีตนายกสมาคมกีฬาแห่งนี้ 16 สมัย กว่า 30 ปีที่สร้างวงการนี้มา ก่อนที่จะขอยุติบทบาทและสนับสนุน “เฮียฮง” นายสุนทร จารุมนต์ ให้ทำหน้าที่นายกสมาคมต่อจนหมดวาระหนนี้ โดย “บิ๊กสิน” ได้อธิบายความผิดหวังจากสิ่งที่เคยสร้างไว้ให้กับผู้สื่อข่าวฟังอย่างละเอียด พร้อมทั้งระบุว่าเคยได้หารือและบอกกับนายสุนทร เรื่องควรถอยออกจากตำแหน่งนี้ ไปแล้วในฐานะพี่น้องที่ร่วมงานกันมา เพราะเป็นห่วงกระแสจากการทำงานด้านต่าง ๆ และห่วงผลที่จะตามมาจากงานบางสิ่งที่ทำไป
​“เป็นข้อเท็จจริงที่ผมบอกเขาอย่างนั้น และอยากสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเข้ามาพัฒนา ด้วยความจริงใจโปร่งใสเพื่อวงการที่แท้จริง เพราะเท่าที่เห็นนั้นผมห่วงใยมาก ผมคุยกับไชยพงศ์ตลอดและฝากไว้ที่เขา” 
บิ๊กสินสรุปอย่างชัดเจนกับผู้สื่อข่าว

และผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง ดิไอดอล ต๋อง ศิษย์ฉ่อย อดีตนักสนุ้กเกอร์มืออันดับสามของโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารงาน
สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย โดย
ต๋อง มีตำแหน่งเป็นประชาสัมพันธ์ของสมาคม

"ถ้าผมพูดในฐานะของ นักกีฬา ซึ่งผมลงแข่งขันทุกรายการที่ทางสมาคมฯ จัดขึ้น รวมทั้งเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย ไปร่วมแข่งขันใน
มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่31 สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม    ความสำคัญที่ผมมองว่าโต๊ะแข่งขัน หรือ โต๊ะสำหรับนักกีฬาทีมชาติไทยใช้ในการเก็บตัว ที่ผ่านมาคือ โต๊ะสนุ้กเกอร์ชุดเดียวกัน  ซึ่งไม่เพียงแต่ผมเท่านั้น ยังมีนักกีฬาจำนวนมากที่มาลงแข่งขัน รวมทั้งนักกีฬาที่ได้รับคัดสรรให้เป็นหนึ่งในนักกีฬาทีมชาติ    เรียกรวมๆ ว่า "อุปกรณ์กีฬา" ที่ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา  บอกตามตรงว่า มาตราฐานและคุณภาพของอุปกรณ์กีฬา
สนุ้กเกอร์ไม่ได้มาตราฐาน  รวมไปถึงการเปลี่ยนผ้าสักหลาด  

ตามปกติผ้าสักหลาดมีอายุการใช้งานราวๆ 2-3 เดือนเป็นอย่างมาก  ก็ควรที่จะเปลี่ยน รวมทั้งยางชิ่งที่มีอายุใช้งานในระยะเวลาจำกัดเช่นกัน   หากจะเปรียบกับสนุกเกอร์อาชีพระดับโลก  เขาใช้แข่งขันเพียง 4-5 วันเท่านั้น
ก็เปลี่ยนใหม่แล้ว  เขาให้ความสำคัญกับเรื่อง
คุณภาพของอุปกรณ์กีฬาเป็นอย่างมาก เพราะต้องการให้นักกีฬาได้แข่งขันในโต๊ะสนุ้กเกอร์ที่ได้มาตราฐาน เพื่อให้นักกีฬาได้โชว์ศักยภาพได้ดีที่สุด   แต่ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าทางสมาคมฯ ละเลย เพิกเฉย  จนกระทั่งมี
กระแสในโลกออนไลน์ครั้งนึง จึงจะปรับปรุง
แก้ไข  นั่นเลยทำให้นักกีฬาสนุ้กเกอร์อาชีพไทย  แข่งขันกับอุปกรณ์กีฬาที่ไม่ได้มาตราฐาน  ก็เป็นเรื่องที่ทำให้นักกีฬาเสียโอกาส

และสืบเนื่องจากกีฬาซีเกมส์ ที่ผ่านมา นักกีฬาไทยก็พลาดโอกาสที่จะคว้าเหรียญทอง ทั้งๆ ที่เรามีนักกีฬาคุณภาพอย่าง กฤษณัส เลิศสัตยาทร(นุ๊ค สงขลา) หรือ ภาสกร สุวรรณวัฒน์
(กร นครปฐม) และอีกหลายคน ที่ต้องขอบอก
ตามตรงว่า  ไทยเราแพ้เพราะอุปกรณ์กีฬา 

ส่วนเรื่องอื่นๆ ผมบอกแบบสั้นๆ อย่างกรณีกีฬา Cuesports ที่นักกีฬาไทยมีลุ้นคว้าเหรียญ อาทิ บิลเลียด , พูล และ แครอม .. รวมทั้ง สนุ้กเกอร์หญิง  ที่ผ่านมามีการชิงแชมป์ประเทศไทย เพียงแค่รายการเดียว คนที่สนใจอยากเล่นกีฬา Cuesports  ทุกคนมืดมน มองไม่เห็นเส้นทางของอนาคต ว่าเล่น
แล้ว แข่งแล้ว จะไปอย่างไรต่อ   ระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เรื่องเหล่านี้ยังคงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี หรือมองเห็นเป็นรูปธรรมว่า เป็นความก้าวหน้าของกีฬา
Cuesports ของประเทศไทย

"ผมก็เห็นด้วยกับคุณลุงสินธุ และก็พร้อมให้การสนับสนุนคุณไชยพงศ์ กวรสุรมย์(เอส)
ให้ร่วมลงสมัครรับการเลือกตั้งในวันที่ 20 กรกฎาคม 2565   ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจนถึงจบมหกรรมกีฬาซีเกมส์   ผมเห็นถึงความตั้งใจ
และการทำงานที่ส่งเสริมนักกีฬาเยาวชนรุ่นใหม่ๆ และกิจกรรมมากมายเพื่อกีฬาสนุ้กเกอร์

หากท่านที่มีสิทธิ์ในการโหวตลงคะแนน อยาก
จะเปลี่ยนแปลงให้คนรุ่นใหม่มาทำงานดูบ้าง ก็
เป็นเรื่องที่น่าจะให้การสนับสนุน"ต๋องกล่าว

#เลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย
#สนุ้กเกอร์ประเทศไทย
#20กรกฏาคม2565วันเลือกตั้ง

                      ⚪⚫🟡🔴🟢

             🙏สนับสนุนโพสต์โดย🙏          
#การกีฬาแห่งประเทศไทย 
#การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 
#AmazingThailand
#TATSookerClubกีฬาและสันทนาการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
#LamaiJazzBarAndBristoขอนแก่น
#BAACศูนย์การแพทย์ชะลอวัยและความงาม
#NicheCuesChantaburi
#มูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา
#Usnooker
#Usports